• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jenny937

#2741
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#2742


ตลท. กำหนด "GL -MAX- NOK' ส่งงบการเงินงวดปี63ภายใน1ก.ย.นี้ หากไม่สามารถทำได้จะประกาศให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และขึ้นเครื่องหมายNC จนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการให้เหตุเพิกถอนกลับมาซื้อขายได้

ตามที่บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือGL บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือMAX และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือNOK ยังไม่นำส่งงบการเงินปี 2563 มายังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ภายในวันที่ 1 มี.ค.2564)


ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ทั้ง 3 บริษัทเร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวเพื่อเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนได้รับทราบ


ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเรียนว่าในกรณีที่ GL MAX และ NOK ยังไม่นำส่งงบการเงินปี 2563 ภายใน 6 เดือนนับแต่วันครบกำหนดระยะเวลานำส่งงบการเงิน กล่าวคือ ภายในวันที่ 1 ก.ย. 2564

ตลาดหลักทรัพย์ฯจะประกาศว่าทั้ง 3 บริษัทข้างต้นเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และขึ้นเครื่องหมายNC (Non-Compliance)จนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการให้เหตุเพิกถอนหมดไปและดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้
#2743


"ทีมพี่เลี้ยง" 2 หัวหอกสหภาพแรงงานฯ แท็กทีมเครือข่ายเชิงพื้นที่ผนึก กสศ.ฉุดเยาวชนแรงงานสู้วัฎจักรเหลื่อมล้ำทางการศึกษาก้าวข้ามกับดักความยากจน

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. เป็นองค์กรแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษาด้วยการนำเสนอ "โครงการนำร่อง" เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาและแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา เบื้องต้นมีหลักฐานบ่งชี้ว่าภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ รวมถึงชุมชนสามารถเข้าถึง ค้นหาและสนับสนุนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาได้ในฐานะเกาะติดในพื้นที่ จึงเกิดความร่วมมือระหว่าง กสศ. กับ โครงการพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษา โดยเครือข่ายเชิงพื้นที่ : ภาคตะวันออก จังหวัดปราจีนบุรี

จังหวัดปราจีนบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่ทำงานที่ กสศ. ต้องการสนับสนุน "เยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษา" อายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปี ในเขตนิคมอุตสาหกรรมให้สามารถฝ่าข้ามสถานการณ์เศรษฐกิจอันเปราะบางจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด – 19 อาจทำให้เกิดปัญหาว่างงานได้ในอนาคตและเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เนื่องจากการศึกษาเชิงพื้นที่พบว่า วัฏจักรแห่งความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจากรุ่นสู่รุ่น คือ "ติดกับดักค่าจ้าง" จากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ , ค่าล่วงเวลา หรือ โอที ,โบนัสประจำปี และเบี้ยขยันขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงานมากน้อยเพียงใด



ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจครอบครัว จำเป็นต้องงทำงานหนักอันเป็นผลพวงจากการศึกษาต่ำ จึงทำให้โอกาสในการเลือกประกอบอาชีพที่มีรายได้สูงย่อมแคบลง ประกอบกับปัญหาครอบครัวและหนี้สินสะสม จำเป็นต้องทนทำงานเป็นเวลายยาวนานเฉลี่ย 12 ถึง 14 ชั่วโมงต่อวันเป็นอย่างน้อย จึงส่งผลให้ไม่มีเวลาดูแลครอบครัวและบุตรสุ่มเสี่ยงหลุดนอกระบบการศึกษาได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังไม่มีเวลาในการศึกษาหรือพัฒนาทักษะใหม่ และ ปัญหาสุขภาพจากการทำงานในระยะยาวต้องแบกต้นทุนการดูแลสุขภาพจากโรคเรื้อรังรุมเร้าในช่วงบั้นปลายชีวิต

ในการขับเคลื่อนงานเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษา "ปัญญา ตลุกไธสง" ประธานสหภาพแรงงานฮิตาชิแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกลุ่มสหภาพแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี ถือเป็นหัวหอกคนสำคัญในการนำ "ทีมพี่เลี้ยง" จำนวน 20 คน ร่วมกับชุมชนทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่ โดยกลุ่มสหภาพแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี มีบทบาทเป็นแหล่งค้นหากลุ่มเป้าหมาย ประชาสัมพันธ์และสื่อสารภายในสมาชิกสหภาพฯ ที่ทำงานในโรงงาน 9 แห่ง พร้อมเก็บข้อมูลเบื้องต้น ประสานครอบครัวและชุมชนให้มาเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงอำนวยความสะดวกสถานที่จัดกิจกรรม ทั้งยังผนึกความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานปราจีนบุรี , สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานปราจีนบุรี และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี เข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้ หลักสูตรและวิทยากร ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาร่วมจัดฝึกอบรมทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ



ทั้งนี้ กสศ. ได้สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ "ทีมพี่เลี้ยง" ให้เข้ามาช่วยดูแลเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยเฉพาะแกนนำสหภาพแรงงานจังหวัดปราจีนบุรีที่แต่ละสหภาพฯมีความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพที่ตนเองถนัดตามศักยภาพเข้ามาร่วมจัดพื้นที่การเรียนรู้ใหม่ที่เหมาะสมกับเยาวชนแรงงานและสภาพพื้นที่ อาทิ เพิ่มทักษะอาชีพเสริม หรือ ต่อยอดอาชีพเดิม เช่น ตัดผมเสริมสวย อัดกรอบพระ เบเกอรี่อาหารเครื่องดื่ม หรือ สนับสนุนทุนและทักษะอาชีพแบบรายกลุ่มที่สอดคล้องกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของโรงงานที่เยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษาทำงานอยู่นำมาจัดจำหน่าย หรือ ให้บริการภายในชุมชน อาทิ "ฮิตาชิ" และ "ไฮเออร์" โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ตู้แช่ ปั๊มน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ สนับสนุนให้เกิดอาชีพบริการ "ช่างชุมชน" หารายได้เสริมระหว่างทำงานในโรงงานในช่วงวันหยุด

เช่นเดียวกับ "ธีระพงษ์ อุ่นฤดี" แกนนำสหภาพแรงงานซันโยแห่งประเทศไทย หรือ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด อีกหนึ่งแนวหน้าที่เข้ามาร่วมหนุนเสริม เพราะเห็นว่าโครงการฯ กสศ. สอดคล้องกับปัญหาและสถานการณ์เชิงพื้นที่ โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจครอบครัวผู้ใช้แรงงานอย่างมาก เนื่องจากรายได้หลักเกินครึ่งหนึ่งมาจากการทำงานล่วงเวลา หรือ โอที แต่พอเกิดสถานการณ์โควิด รายได้จากโอทีหดหาย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเริ่มใช้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทนแรงงานไทยมากขึ้น ดังนั้นแรงงานไทยต้องพัฒนาฝีมือแรงงานอยู่เสมอไม่เช่นนั้นตกงาน



ยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น เริ่มมีสัญญาณไม่ดี ลดค่าจ้าง ลดโอที หรือ บางแห่งถึงขั้นปิดโรงงานลอยลอยแพพนักงานจากวิกฤตโควิด จึงทำให้สถานะทางเศรษฐกิจครอบครัวของเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษาเปราะบางมาก ดังนั้นการมีอาชีพเสริม หรือ อาชีพทางเลือกระหว่างทำงานประจำในโรงงาน จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงต่อเศรษฐกิจครอบครัว จึงกลายเป็นความร่วมมือระหว่าง กสศ.กับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด

"แรงงานที่ติดโควิด ทั้งเพราะไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวว่าติดแต่ก็ไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวถูกนายจ้างไล่ออกจากงาน เพราะงานที่ทำอยู่รายได้ก็ไม่พอกินอยู่แล้ว หากติดโควิดหรือต้องกักตัวก็ขาดรายได้แล้วจะอยู่ได้อย่างไร" แกนนำสหภาพซันโยฯ กล่าวถึงผลกระทบวิกฤตโควิดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน แนวทางการดำเนินการต่อไปที่ภาคีเครือข่ายในพื้นที่นำเสนอแนะว่า ควรเน้น "ขยายความร่วมมือ" เพิ่มกับโรงงานอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในพื้นที่ มุ่งเน้น "เข้าถึงชุมชน" ในพื้นที่โดยรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของครอบครัวผู้ใช้แรงงานโดยดึงผู้นำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมสำรวจ ค้นหาและสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตเยาวชนแรงงานนอกระบบการศึกษา พร้อมกับสนับสนุนควรจัดตั้ง "ศูนย์ประสานภาคีความร่วมมือการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยมีชุมชนเป็นฐาน" โดยยึดหลักไม่เน้นจัดตั้งเป็นองค์กร แต่เน้นสร้าง "ภาคีความร่วมมือ" และ "การมีส่วนร่วม" จากทุกภาคส่วนในพื้นที่มาทำงานหรือจัดกิจกรรมร่วมกับ กสศ. เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาอย่างยั่งยืนต่อไป

https:// m.mgronline.com/politics/detail/9640000075266
#2744


เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda  ระบุว่า เปิดไทม์ไลน์ "วัคซีนซิโนฟาร์ม" 10 ล้านโดสนำเข้าไทย และแผนการจัดสรรและกระจายวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

1 สิงหาคม 2564: ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สรุปแผนการจัดสรรและกระจาย "วัคซีนซิโนฟาร์ม" ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2564 พร้อมเปิดไทม์ไลน์วัคซีนซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดสให้ประชาชนคนไทย ภายหลังจากวัคซีนซิโนฟาร์ม (SINOPHARM) ล็อตที่ 5 จำนวน 1 ล้านโดสเดินทางมาถึงประเทศไทยวันนี้ (1 สิงหาคม 2564)

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หนึ่งใน 5 หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าวัคซีนโควิด-19 ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการดำเนินการประสานติดต่อและนำเข้าวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" จากสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและในการขออนุมัติการขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนฟาร์มจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนโควิด-19 รายการที่ 5 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564

ทางราชวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีทั้งจากกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานครเพื่อให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สามารถกระจายวัคซีนช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ วัคซีนจากบริษัทซิโนฟาร์มที่ใช้ในประเทศไทยผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) เป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ติดต่อนำเข้ามา จำนวน 10 ล้านโดส ระหว่างเดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2564 โดยมีกำหนดถึงประเทศไทย ดังนี้


ไทม์ไลน์วัคซีนซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส

• 20 มิถุนายน 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 4 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 18 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 25 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 1 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 15 สิงหาคม 2564 จำนวน 1 ล้านโดส

• 22 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส

• 29 สิงหาคม 2564 จำนวน 2 ล้านโดส


แผนการจัดสรร และกระจายวัคซีน "ซิโนฟาร์ม"

โดยพิจารณาทยอยจัดสรรตามลำดับความสำคัญเร่งด่วนตามประเภทการดำเนินธุรกิจที่มีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศ ระดับความเสี่ยงของโอกาสในการแพร่เชื้อให้กับสังคม และระดับความเสี่ยงบนพื้นที่ของทำเลที่ตั้งสถานประกอบการและที่พักอาศัย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

1) กลุ่มองค์กรนิติบุคคล เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จัดสรรไปแล้วให้กับประชากร จำนวน 2.26 ล้านคน ประมาณ 4.5 ล้านโดส เริ่มกระจายฉีดตั้งแต่ 25 มิถุนายน 2564

สำหรับภาคองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มบุคคลต่างๆ ให้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งองค์กรเป็นผู้สนับสนุนค่าวัคซีนให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ประกาศจัดสรรให้กับองค์กรนิติบุคคลที่ยื่นขอรับการจัดสรรในระยะที่ 1 เข้ามาทั้งหมดแล้ว โดยทยอยจัดสรรไปทั้งหมด 5 ครั้ง รวมประชากรที่ได้รับจัดสรรวัคซีนไปทั้งหมด จำนวน 2,264,957 คน = 4,529,914 โดส และเริ่มกระจายฉีดในกลุ่มองค์กรนิติบุคคล ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้

• ครั้งที่ 1 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 จำนวน 476,682 คน

• ครั้งที่ 2 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 จำนวน 302,618 คน

• ครั้งที่ 3 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จำนวน 338,419 คน

• ครั้งที่ 4 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 จำนวน 993,330 คน

• ครั้งที่ 5 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 จำนวน 153,908 คน

2) กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เดือนกรกฎาคมได้จัดสรรไปแล้วให้กับประชากร จำนวน 1.9 ล้านคน ประมาณ 3.9 ล้านโดส เริ่มกระจายฉีดตั้งแต่ 28 กรกฎาคม 2564

สำหรับภาคองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานราชการ ที่ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มประชากรในพื้นที่ให้ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่ง อปท.เป็นผู้สนับสนุนค่าวัคซีนให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ทยอยประกาศจัดสรรไปแล้ว จำนวน 4 ครั้ง รวมประชากรที่ได้รับจัดสรรวัคซีนทั้งหมด จำนวน 1,965,944 คน = 3,931,888 โดส และเริ่มกระจายฉีดประชาชนในกลุ่ม อปท. ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้

• ครั้งที่ 1 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 จำนวน 392,789 คน

• ครั้งที่ 2 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 จำนวน 148,082 คน

• ครั้งที่ 3 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 จำนวน 145,772 คน

• ครั้งที่ 4 ประกาศจัดสรรเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 จำนวน 1,279,301 คน


3) กลุ่มบุคคลธรรมดา เดือนกรกฎาคมได้ลงทะเบียนเปิดจองและจัดสรรไปแล้ว 1 ครั้ง จำนวน 57,034 คน = 114,068 โดส เริ่มกระจายฉีดในกลุ่มบุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2564

4) กลุ่มประชาชนเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส จำนวน 351,047 โดส = 175,523 คน

สำหรับวัคซีนที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้จัดสรรให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส ส่วนหนึ่งมาจากองค์กรที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มระยะที่ 1 ร่วมช่วยเหลือสังคมจัดสรรวัคซีนบริจาคให้อย่างน้อย 10% ของจำนวนวัคซีนซิโนฟาร์มที่ได้รับการจัดสรร และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ร่วมสมทบ "ครึ่งโดส" ต่อ 1 สิทธิ์การจองวัคซีนซิโนฟาร์มในรอบบุคคลธรรมดา

ทั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายสำหรับผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มบริจาคไว้ 5 กลุ่ม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ได้แก่

• ผู้พิการ

• ผู้ด้อยโอกาส/ชุมชนแออัด

• ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้ป่วยเรื้อรัง

• พระ/นักบวช

• กลุ่มอาชีพต่างๆที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีนหลักได้และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อ

ทั้งนี้ โดยสรุป ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้จัดสรรและกระจายวัคซีนซิโนฟาร์มให้กลุ่มต่างๆไปแล้ว จำนวน 8.9 ล้านโดส ยังมีโควต้าวัคซีนซิโนฟาร์มที่รอการจัดสรรอีกจำนวนประมาณ 1.1 ล้านโดส โดยในเดือนสิงหาคมนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะเปิดลงทะเบียนจองวัคซีนสำหรับบุคคลธรรมดาในรอบที่ 2 และเปิดลงทะเบียนการขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มสำหรับองค์กรนิติบุคคล ระยะที่ 2 โดยมีข้อกำหนดให้สำหรับองค์กรที่มีการยื่นขอรับจัดสรรให้กับพนักงานตั้งแต่ 100-2,000 คน เพื่อทยอยกระจายวัคซีนที่มีในโควต้าให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความต้องการเข้าถึงวัคซีนอย่างเร่งด่วนต่อไป พร้อมทั้งเตรียมแผนขยายอายุการให้วัคซีนซิโนฟาร์มในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 3-17 ปี หลังจากรัฐบาลจีนได้อนุมัติรับรองการใช้วัคซีนซิโนฟาร์มเพื่อการใช้แบบฉุกเฉินในกลุ่มคนอายุ 3-17 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นจนกว่าวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกในประเทศไทย จะมีเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ก็จะค่อยๆ ลดบทบาทในการนำเข้าและจัดสรรปริมาณวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มนี้ลง

ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2564

นิธิ มหานนท์ 

เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ 

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ 
#2745



นิสสัน เปิดตัว อัลเมร่า สปอร์ตเทค ตกแต่งพิเศษด้วยฝีมืของ ออเทค เจแปน (Autech Japan) บริษัทในเครือ นิสสัน มอเตอร์ ที่ฝากผลงานตกแต่งกันรถหลายๆ รุ่น

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมตลาดอีโค คาร์ เปิดตัว อัลเมร่า สปอร์ตเทค ที่ตกแต่งพิเศษเติมความสปอร์ต พรีเมียม แบบญี่ปุ่นทั้งภายในและภายนอก ด้วยผลงานของ ออเทค เจแปน  (Autech Japan, Inc) สำหรับลูกค้าที่ชอบความเรียบหรู ซึ่งนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค จะใช้วัสดุตกแต่งที่

ออเทค เจแปน เป็นบริษัทในเครือ นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงด้านงานออกแบบสไตล์สปอร์ตพรีเมียม และทำงานร่วมกับฐานการผลิตนิสสันในประเทศต่างๆ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละตลาด ทำให้ได้รถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

โดยการตกแต่งพิเศษให้กับ อัลเมร่า สปอร์ตเทค ประกอบด้วย

กันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ตกแต่งด้วยสีเงิน
กระจังหน้าแบบโครเมียมดำเงา
สปอยเลอร์หลังใหม่
ตราสัญลักษณ์ สปอร์ตเทค ที่ฝาท้าย
กระจกมองข้างสีเงินพร้อมไฟเลี้ยว
ล้ออัลลอยสีดำปัดเงาขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่ 

อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าว นิสสันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้า ด้วยรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ วัสดุที่มีคุณภาพ ที่เหมาะกับการใช้งานทุกวัน

สำหรับนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค  ราคาเริ่มต้นที่ 629,000 บาท

และนอกจาก อัลเมร่า สปอร์เทค ใหม่แล้ว ออเทคยังนำเสนอผลงานการออกแบบ และตกแต่ง รถยนต์รุ่นพิเศษต่าง ๆ ของนิสสัน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งเพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ต หรือการดัดแปลงเพื่อการใช้งานเฉพาะในรูปแบบต่างๆ ต่างๆ เช่น รถที่ผู้ใช้ วีลแชร์สามารถเข้าออกได้ง่าย เป็นต้น

โดยตัวอย่างผลงานเด่นๆ จาก ออเทค  ในญี่ปุ่น ได้แก่  

นิสสัน ลีฟ ออเทค

นิสสัน เซเรน่า ออเทค 

นิสสัน มาร์ช โบเลโร่

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951728
#2746



เยลลี่ "ปีโป้" เป็นหนึ่งในสินค้าและแบรนด์เรือธวของ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญของตลาดขนม โดย "ปีโป้" มีฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยเด็ก วัยทีนหรือวัยรุ่น เป็นหลัก จะเห็นว่าในการสื่อสารการตลาด ช่วงเวลาที่แบรนด์จะยึดเพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครับรู้จะเป็นช่วงเวลาเช้า ที่มีรายการเด็ก โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ที่มีการ์ตูนเอาใจคุณหนูๆน้องๆเป็นส่วนใหญ่ 

ทว่า ปัจจุบันการดื่มด่ำตัวเลขเติบโตทางธุรกิจอยู่ในขอบเขตกลุ่มเป้าหมายหลักเดิมๆที่มี ไม่เพียงพอ และการทำตลาดโดยอาศัยจุดแข็งของแบรนด์ตนเองฝ่ายเดียวคงไม่ได้ หมดยุคโชว์เดี่ยวหรือ One Man Show อีกต่อไป ยิ่งในยุคโรคโควิด-19 ระบาด หลายธุรกิจ สินค้ายอดขายหดตัว ต้องหันมาประหยัดงบประมาณ ดูแลบริหารจัดการต้นทุนให้ดี หาก "ผนึกพันธมิตร" เพื่อแชร์ทรัพยากร สินทรัพย์ที่มี ต่อยอดธุรกิจ เกิด Win-win strategy ย่อมเป็นเรื่องดี 

"ปีโป้" เป็นอีกแบรนด์ที่เดินหน้าใช้กลยุทธ์ความร่วมมือ(Collaboration)กับแบรนด์สินค้าอื่นที่มีความแข็งแรง มีโจทย์และเป้าหมายธุรกิจเดียวกัน มาร่วมสร้างสีสันให้เกิดขึ้นในตลาด ล่าสุดกับการจับมือเครื่องดื่มชูกำลัง "M-150" ของค่าย "โอสถสภา" ออกเยลลี่ "ปีโป้กลิ่น M-150" เข้าทำตลาดแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น 

"ปีโป้ X M-150" จะเกิด Win-win อะไรบ้าง กรุงเทพธุรกิจ ชวนวิเคราะห์จุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ คือการเป็น "ผู้นำตลาด" ในเซ็กเมนต์ที่ตัวเองอยู่นั่นคือ เยลลี่และเครื่องดื่มชูกำลัง และมีฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่ "แตกต่างกัน" 

ผู้บริโภคเยลลี่ คือวัยเด็ก วัยรุ่น ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 เป็นวัยทำงาน โดยเฉพาะชนชั้นแรงงาน แต่หลายปีที่ผ่านมา แบรนด์เลือกพี่ตูน บอดี้สแลม เป็นพรีเซ็นเตอร์ ใช้กลยุทธ์การตลาดทางดนตรี(Music Marketing) รวมถึงการตลาดเชิงกีฬา(Sport Marketing) สร้างการรับรู้ ชูภาพลักษณ์แบรนด์สู่คนรุ่นใหม่ เป็นการขยายฐานที่กว้างขึ้น เมื่อ 2 แบรนด์โคจรมา Collaboration กัน จึงทำให้ช่วยขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะกับ "ปีโป้" สอดคล้องกับภารกิจแบรนด์ที่ย้ำว่าเป็นสินค้าไม่ว่าเจนเนอเรชั่นไหนก็อร่อยได้


แม้ทุกคนจะเคยผ่านวัยเด็ก วัยรุ่น และรับประทานเยลลี่ปีโป้มาก่อน แต่เมื่อเติบโตจนถึงวัยผู้ใหญ่ การบริโภคสินค้าดังกล่าวจะลดลง หันไปบริโภคสินค้าอื่นๆที่มีความหลากหลาย ตอบไลฟ์สไตล์ตามแต่ละช่วงอายุแตกต่างกันไป 


เมื่อทุกคนต่างรู้จัก รับรู้แบรนด์เยลลี่ ปีโป้ อย่างดี แต่การจะบริโภคทุกวัน ถี่เหมือนวันเด็ก วัยรุ่นคงไม่ได้ หากแบรนด์ต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาทานเยลลี่เหมือนวันวานต้องออกสินค้าใหม่สร้างความตื่นเต้น หนุนให้เกิดการ "ทดลอง" สินค้า ซึ่ง "ปีโป้ กลิ่น M-150" เป็นคำตอบที่แบรนด์เลือกทำตลาด เพราะวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ อาจต้องการย้อนสู่วัยใส 14 อีกครั้ง และไม่ต้องทานแค่ "ปีโป้" กลิ่น รสชาติทั่วไปที่มีในตลาด แต่ต้องเป็นสิ่งที่แบรนด์สร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ 

ส่วน M-150 ได้สร้างโอกาสใหม่ ในการขยายตลาดต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ไม่ใช่เครื่องดื่มชูกำลัง แต่สามารถผสานในหมวดขนม หรืออาจเป็นหมวดอื่นๆได้ด้วย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์จะหา "ช่องว่างและโอกาส" ทางการตลาดให้เจอ เพื่อเพิ่มการขายสินค้าให้หลากหลาย ผลักดันการเติบโตต่อไป  

อย่างไรก็ตาม ก่อนสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ยูโรเปี้ยนฟู้ด ได้ปลุกกระแสนำร่องผ่านโลกออนไลน์ ถึงการ Collaboration กับพันธมิตรใหม่ เพื่อหยั่งเสียงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหลายคนตั้งตารอ ทันทีที่ปล่อยสินค้าออกมา ผลตอบรับถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี 

สำหรับ "ปีโป้ กลิ่น M-150" ผลิตจำหน่ายแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น ขนาดบรรจุ 50 ถ้วย ในราคา 99 บาท  จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ช้อปปี้ ลาซาด้า, เจดี, โรบินฮู้ด, ไลน์และเฟซบุ๊กของ ยูโรเปี้ยนฟู้ด เป็นต้น 

กระแสของ "ปีโป้" ไม่เคยจางหายไปจากตลาด เพราะผู้บริโภคที่เคยซื้อสินค้าจะรู้ดีว่า "ปีโป้" มี 5 สี ได้แก่ สีแดง (สตรอว์เบอร์รี) และสีส้ม (ส้ม) สีเขียว (แอปเปิ้ล), สีขาว (ลิ้นจี่), สีม่วง (องุ่น) แต่บางครั้งผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผสมกับเครื่องดื่มปั่นอื่นๆ มักจะอดทาน ปีโป้สีม่วง จนเกิดการทวีตบนทวิตเตอร์ เกิดไวรัส #saveปีโป้ม่วง ทำให้แบรนด์ยังอยู่ในสายตา การรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายเสมอ

 นอกจากการ Callaboration กับ M-150  ที่ผ่านมายังมี ปีโป้โยเกิร์ต สร้างสีสัน ความตื่นเต้นให้ตลาดเยลลี่ ยิ่งกว่านั้นกลยุทธ์ความร่วมมือยังปูทางสู่การผลักดันยอดขายให้เติบโตแก่ทั้ง 2 แบรนด์ด้วย 


นอกจากยูโรเปี้ยนฟู้ด จะมีปีโป้ เป็นแบรนด์เรือธง แต่พอร์ตโฟลิโอสินค้าที่บุกตลาดขนมมีมากมาย เช่น ลูกอม Hitto, เวเฟอร์ปักกิ่ง, เค้กเอลเซ่ และเวเฟอร์ชนิดแท่งสอดไส้ครีม โจโจ้ เป็นต้น 
#2747


เริ่มปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว ในขณะที่หลายคนกังวลใจถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยสุขภาพชั้นนำของโลกบ่งชี้ว่า การออกกำลังกายช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น และมีแนวโน้มช่วยให้ร่างกายเพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น 50% หลังฉีดวัคซีน

"ดร.ร็อบ นิวตัน" ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์การออกกำลังกายจากมหาวิทยาลัยเอดิธ โคแวน ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศออสเตรเลีย บ่งชี้ว่า การฉีดวัคซีนทำให้เกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน แต่เนื่องจากเราจะมีเซลล์ภูมิคุ้มกันเหล่านี้มากขึ้นเมื่อออกกำลังกาย การออกกำลังกายสม่ำเสมอจึงช่วยให้การตอบสนองทรงพลังมากขึ้น สอดคล้องกับ "ดร.โรเบิร์ต อี" แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและการกีฬา จากศูนย์การแพทย์ "ไคเซอร์เพอร์มาเนนต์ ฟอนตานา" รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เผยว่า ผู้ใหญ่ที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือเดิน 30 นาทีต่อวัน ต่อเนื่อง 5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อ 37% อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพหลังฉีดวัคซีน

ผลการวิจัยของ "กลาสโกว์ คาเลโดเนียน ยูนิเวอร์ซิตี้" มหาวิทยาลัยใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร พบว่า การออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลให้ระดับแอนติบอดี้ อิมมูโนโกลบูลิน เอ (IgA) สูงขึ้น ซึ่งแอนติบอดี้นี้ทำหน้าที่ต่อต้านการติดเชื้อ โดยยับยั้งการเกาะติดของแบคทีเรียและไวรัสกับเซลล์เยื่อบุผิว จึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันปอดและอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ตอกย้ำว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ CD4+T ซึ่งมีบทบาทในการต่อสู้กับเชื้อโรคและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ด้าน "ศาสตราจารย์จิม ซัลลิส" จากสถาบันวิจัยสุขภาพ "แมรี่ แมคคิลลอป" มหาวิทยาลัยออสเตรเลียน คาทอลิก ยูนิเวอร์ซิตี้ วิจัยถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างการออกกำลังกายกับความสามารถในการป้องกันโควิด-19 ค้นพบว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอัตราการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงยังพบว่าอัตราการเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูของผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่ในระดับต่ำกว่ากลุ่มคนที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 10 นาทีต่อสัปดาห์


จะเตรียมความพร้อมยังไง ก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด "ฟิตเนส เฟิร์สต์ ประเทศไทย" มีเทคนิคแนะนำ

1) ช่วง 2 วันก่อน และหลังการฉีดวัคซีน ควรงดออกกำลังกายหนัก เช่น คาร์ดิโอ, แอโรบิก และยกเวท

2) ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 500-1,000 ซีซี

3) งดเครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์

4) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง

5) หากมีไข้สูงก่อนฉีดวัคซีน ควรเลื่อนนัด

6) หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน

7) หลังฉีดวัคซีนให้รอดูอาการ 30 นาที ถ้ามีไข้ปวดเมื่อยมาก สามารถกินยาพาราฯ 500 มิลลิกรัม ครั้งละหนึ่งเม็ด ทุก 6 ชั่วโมง

8) ถ้ากินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ให้กินตามปกติ แต่เมื่อฉีดวัคซีนแล้วให้กดตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาที.

https:// www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2113595
#2748



นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนก.ค.2564ว่า จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด76 จังหวัดทั่วประเทศสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค(RSI)พบว่า ดัชนี RSI เดือนดังกล่าวปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าทุกภูมิภาค เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ดี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ยังมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 46.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ปรับตัวชะลอลง แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตร เนื่องจาก ปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น มังคุด และทุเรียน เป็นต้น

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ 41.7 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ชะลอลงเช่นกัน แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรซึ่งยังมีแนวโน้มความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นเนื่องจาก เข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว และคาดว่า จะมีความต้องการสินค้าเกษตรภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ 40.2 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการลงทุนและการจ้างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ต้องลดปริมาณการผลิต และลดชั่วโมงการทำงานลง

ในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลางอยู่ที่ระดับ 37.7 สะท้อนภาวะอนาคตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกันโดยเฉพาะในภาคการลงทุน ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนลง

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 57.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจาก เข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้าวนาปี อ้อยโรงงานและมันสำปะหลัง

ประกอบกับ การสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐในการช่วยเหลือเกษตรกรสำหรับภาคอุตสาหกรรมคาดว่าความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

กลุ่มป่า 'แก่งกระจาน' มรดกโลกแห่งใหม่ของไทย
เอกชนชงรัฐเร่งสกัดโควิด บูรณะแหล่งท่องเที่ยว"อีอีซี"
'ดูดวง' สิงหาคม 2564 ตามหลักโหราศาสตร์จีน กับซินแสนัตโตะ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 56.1แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจาก สภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตร ส่งผลให้มีแนวโน้มผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีความต้องการสินค้าเกษตรจากตลาดในประเทศที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมคาดว่า ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมในตลาดต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นตามการส่งออกของไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 51.7สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรรม เนื่องจาก ปริมาณน้ำมีเพียงพอต่อการเพาะปลูก ประกอบกับการเริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ลำไย และน้อยหน่า เป็นต้น สำหรับภาคอุตสาหกรรม คาดว่า ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมภายในประเทศจะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ค่าดัชนีอยู่ในช่วง 0-100 > 50 แนวโน้มความเชื่อมั่น "ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน" , < 50 แนวโน้มความเชื่อมั่น "ชะลอกว่าปัจจุบัน" , = 50 แนวโน้มความเชื่อมั่น "ทรงตัว"
#2749


วันที่ 30 ก.ค.64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี ชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมประชุมใช้ระบบ conference โดยมีนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เข้าร่วมด้วย ภายหลังจากการประชุม นายจุรินทร์ เผยว่า มีประเด็นสำคัญ 5 ประเด็น คือ

1. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบให้จ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุผู้มีรายได้น้อย ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท จำนวน 100 บาทและมีรายได้ 30,000 ถึงไม่เกิน 100,000 บาท เป็นจำนวน 50 บาท สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยที่ผ่านมาได้มีการค้างการจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย เป็นเวลา 4 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2563 วันนี้ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินย้อนหลังให้กับผู้สูงอายุที่ค้างจ่ายอยู่จำนวน 4,700,000 รายทั่วประเทศและมีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปี 2564 โดยให้จ่ายเป็นเวลา 1 ปี รวม 6 งวด โดยจ่ายเดือนเว้นเดือน ซึ่งมีอยู่จำนวน 4,700,000 ราย

2. การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนซึ่งเป็นประเด็นก่อนหน้านี้ สำหรับผู้สูงอายุที่รับเงินไปแล้วจะทำอย่างไร ได้มีการถามไปยังกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาแล้วว่าให้สามารถดำเนินการได้ ถ้าผู้สูงอายุท่านใดจ่ายเงินกลับคืนมาให้จ่ายกลับไปยังผู้สูงอายุโดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องจ่ายเงินคืนไปให้ผู้สูงอายุ สำหรับการดำเนินการกรณีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในอนาคตได้มีการตั้งอนุกรรมการชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 1 เดือนตามที่กฤษฎีกาแนะนำมาเบื้องต้น จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่รับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนมีอยู่ 15,000 ราย

3. ก่อนหน้านี้มีการจัดโครงการชำระหนี้ให้กับผู้สูงอายุที่เป็นหนี้กองทุนผู้สูงอายุและจะครบกำหนดวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ประชุมมีมติให้ต่ออายุพักชำระหนี้ผู้สูงอายุไปอีกหกเดือนจนถึงเดือนมีนาคมปี 2565

4. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการผู้สูงอายุระยะยาวตั้งแต่ปี 2566-2580 ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

และ ประเด็นที่5 ที่ประชุมขอให้ตนเรียนให้ผู้สูงอายุทั่วทั้งประเทศได้รับทราบว่าคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเป็นห่วงเป็นใยผู้สูงอายุทุกคนโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้สูงอายุทุกท่านขอความกรุณาให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิดกรุณาอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุที่เข้าไปขอรับบริการเป็นกรณีพิเศษด้วย
#2750



ช่วงนี้โอปป้าชวนปลูกต้นไม้ ตามรอยซีรีส์เกาหลี "Nevertheless" โดย "เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก" เลือก "ต้นไม้สไตล์มินิมอล" ตกแต่งห้องก็สวย ช่วยฟอกอากาศได้ด้วย

ซีรีส์เกาหลี Nevertheless (รักนี้ห้ามไม่ได้) ออกฉายไปไม่กี่ตอน (เผยแพร่โดย Netflix) บรรดาติ่งเกาหลีพากันหา ต้นไม้สไตล์มินิมอล มาประดับห้อง โดยเฉพาะบทพูดที่พระเอก – พัคแจออน พูดกับนางเอก – ยูนาบี ว่า "ไปดูผีเสื้อกันไหม...ที่บ้านฉัน" กลายเป็นวลียอดฮิตติดกระแสโซเชียล อยากมีโอปป้าชวนไปดูผีเสื้อบ้าง...


ช่วงนี้ฤดูฝน ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ขอเกาะกระแสมาแรงของซีรีย์ดัง ชวนทุกคนปลูกสีเขียวไว้ในบ้านกับ ต้นไม้สไตล์มินิมอล กันก่อนจะไปดูผีเสื้อ...ปลูกต้นไม้ดีต่อใจเสมอ และ ต้นไม้สไตล์มินิมอล ดูแลง่าย ตกแต่งมุมไหนก็สวย ช่วยเพิ่มออกซิเจน และช่วยฟอกอากาศได้ด้วย เช่น


   คาลล่า ลิลลี่ ดอกสีม่วงสวยมาก

คาลล่า ลิลลี่ (Calla Lily) ไม้ดอกหลากสีสันสวยงาม มีถิ่นกำเนิดในอัฟริกาใต้ 

การดูแล :  ชอบแสงรำไร  รดน้ำวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้า


    ยางอินเดียดำ

สุขสมใจปอง หนึ่งในไม้ประดับชื่อมงคล สายพันธุ์อะโกลนีมา ราชาแห่งไม้ประดับสีสันฉูดฉาดโดดเด่น

การดูแล : แสงแดดรำไร  รดน้ำวันละครั้งหรือวันเว้นวัน โดยให้ดูความชื้นของดินเป็นหลัก


     มอนสเตอร่า ต้นไม้ฟอกอากาศยอดนิยม

ออมชมพู ต้นไม้ชื่อมงคล มีเก็บมีออม สีชมพูที่สายหวานต้องมี หนึ่งในไม้กระแสตระกูลซินนิงเกีย (Sinningia) ที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในชั่วโมงนี้

การดูแล : แสงแดดรำไร  รดน้ำวันละครั้งหรือวันเว้นวัน
#2751
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#2752



โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค วิตกจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนฯ และโควิดระบาดหนัก ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้า หลังจากที่ได้ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 และกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวลงนำตลาดอื่นในภูมิภาค

นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในภูมิภาคลงด้วย นักลงทุนจึงโยกเงินไปเล่นที่ฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปกัน ทำให้ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเวลานี้ถือว่าดีมาก

ส่วนบ้านเรายังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ จากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่งบฯออกมาดี และให้ปันผลดีที่ด้วย อย่างหุ้น SCC ให้ปันผลดี รวมถึงอาจมีแรงเก็งกำไรประเด็น M&A แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา

ทั้งนี้ ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,545-1,550 จุด
URL
 34
 
#2753



LPN เดินหน้าเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่า 6,900 ล้านบาทในครึ่งหลังของปี 2564พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ "Villa 168 @ Westgate" เจาะตลาด Gen Y และ Young Affluent เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว(Privacy) มั่นใจปีนี้รายได้รวมได้ตามเป้าหมาย 7,000 ล้านบาท

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งหลังของปี 2564 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ในไตรมาสสองที่ผ่านมาและยังคงต่อเนื่องในไตรมาสสามของปีนี้ ประกอบกับมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง 30 วันในเดือนกรกฎาคม 2564 และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดล่าสุดตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้บริษัทมีการปรับแผนการเปิดตัวโครงการในปี 2564 จากเดิมที่วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 8-9 โครงการ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ในปี 2564 ปรับเป็นเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 9,600 ล้านบาท



ทั้งนี้ได้เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว 1 โครงการคือ โครงการ "บ้าน 365 แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง" ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท และจะเปิดอีก 5 โครงการ มูลค่า 6,900 ล้านบาท ในครึ่งหลังของปี 2564 เป็นโครงการบ้านพักอาศัย 3 โครงการ มูลค่า 1,400 ล้านบาท และอาคารชุดพักอาศัย 2 โครงการ มูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท โดยยังคงตั้งเป้ารับรู้รายได้รวมปี 2564 ไว้ที่ 7,000 ล้านบาทตามแผนเดิมที่วางไว้



ขณะเดียวกันเพื่อทำให้ยอดโอนเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 บริษัทได้มีการเพิ่มกลยุทธ์การขายโดยการนำเทคโนโลยีการเข้าเยี่ยมชมโครงการในแบบ 3-D Virtual Interactive ให้ลูกค้าสามารถเข้าชมโครงการของบริษัทได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นผ่าน 3-D Digital Platform โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาที่โครงการและเป็นส่วนหนึ่งในการลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นอีกก้าวของการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการขายอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น



สำหรับการลดจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่จาก 8-9 โครงการ เป็น 6 โครงการในปี 2564 นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายยอดขายรวมที่ตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาทในปี 2564 ขณะที่ยอดขายในครึ่งแรกของปี 2564 ทำได้ 4,170 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 41.70% ของเป้าหมายยอดขายที่วางไว้ ในขณะที่เรามีสินค้าคงเหลือพร้อมขาย(Inventory) ทั้งอาคารชุดพักอาศัยและบ้านพักอาศัย มูลค่ารวม 9,500 ล้านบาท และบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อีกมูลค่า 2,700 ล้านบาท

นายโอภาสกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน LPN อยู่ระหว่างการปรับปรุง Business Model เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้รวมแตะระดับ 20,000 ล้านบาท ในปี 2567 ซึ่งในปี 2564 เป็นปีแรกที่มีการปรับโครงสร้างและกลยุทธ์องค์กร ซึ่งจะค่อยๆเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้บริษัทเดินหน้าในการสร้างการเติบโตกลับมา แม้ว่าในปัจจุบันจะมีปัจจัยกดดันต่อภาพรวมของธุรกิจเข้ามาอยู่ แต่เชื่อมั่นว่า หากปัจจัยที่กดดันได้ผ่านพ้นและคลี่คลายลงไป บริษัทมีความพร้อมที่จะเดินหน้ารุกธุรกิจอย่างเต็มที่เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้



โดยในการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 นายโอภาส กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่สำหรับบ้านพักอาศัย ภายใต้แบรนด์ "Villa 168 @ Westgate" เป็นบ้านพักอาศัยที่ถูกออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว (Privacy) มีเพียง 20 หลัง บนทำเลศักยภาพย่านบางใหญ่ ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ มูลค่าโครงการ 226 ล้านบาท และเปิดตัวบ้านพักอาศัยอีก 2 โครงการภายใต้แบรนด์ "ลุมพินี ทาวน์เพลส" ที่ ลาดพร้าว 101-โพธิ์แก้ว มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และ "ลุมพินี ทาวน์วิลล์" ที่ สายไหม 18-สะพานใหม่ มูลค่าโครงการ 562 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเปิดตัวโครงการอาคารชุดพักอาศัย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ "ลุมพินี วิลล์ จรัญฯ-ไฟฉาย" มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท และโครงการ "ลุมพินี มิกซ์ นราธิวาส-รัชดา" มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท โดยจะทะยอยเปิดตัวโครงการเมื่อสถานการณ์ล็อกดาวน์คลี่คลาย

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลายได้เร็ว บริษัทอาจจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเป็นโครงการอาคารชุดภายใต้แนวคิดใหม่ที่ตอบโจทย์สำหรับคน Gen Y และ Young Affluent ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว (Privacy) สะดวกสบาย ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีในรูปแบบของ "Smart Residence" ที่เราอาจจะเปิดตัวได้ปลายปีนี้หรือต้นปี 2565



นายโอภาส กล่าวอีกว่า ตลาดอสังหาฯ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2563 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าแนวโน้มของตลาดอสังหาฯ จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 โดยประมาณการณ์ว่า ตลาดอสังหาฯ จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เติบโตประมาณ 5-10% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯ เร่งเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อมาชดเชยกับสินค้าคงเหลือที่ลดลง เพื่อให้สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องในปี 2565-2567



ขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำและการฟื้นตัวของภาคการผลิตและการส่งออก เป็นปัจจัยบวกที่กระตุ้นเศรษฐกิจและยอดขายอสังหาฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงทางธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ยังคงเป็นเรื่องของภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นแตะระดับ 90% ทำให้สถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Loan) มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงในระดับ 40-50% ประกอบกับความไม่มั่นใจในรายได้ในอนาคตของกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มที่ทำให้ชะลอการตัดสินใจซื้อ ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว บริษัทได้มีแนวทางในการช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยบริษัทได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินทำหน้าที่ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ให้กับลูกค้าในการจัดทำฐานะทางการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแคมเปญ "Staff Get Member" เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งหลังของปี รวมถึงเตรียมออกกลยุทธทางการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น
#2754
โปรแกรม Zoom เป็นโปรแกรมสำหรับการประชุมออนไลน์ และเป็นเครื่องมือนิยมสุดๆ ในยามวิกฤตCOVID-19 ในตอนนี้ โดย Zoom ที่เป็นที่นิยมใช้กันในตอนนี้คือ Program Zoom Meeting ซึ่งมีให้เลือกติดตั้งได้หลายแบบ ทั้งโปรแกรมลงในComputer หรือ  แอฟ  ในโทรศัพท์มือถือ จากการใช้งานจริง แล้วลองผิดลองถูกหลายโปรแกรมมาแล้วในช่วงนี้ พอสรุปได้ว่า มันใช้งานแล้วดียังไง ตรงไหนที่น่าสนใจ

1.ใช้งานง่ายมาก  ไม่จำเป็นต้องเก่งโปรแกรมมากมาย
2.การแชร์ภาพ แชร์วิดีโอ หรือ แม้แต่หน้าจอการสอน การประชุมทำง่ายมาก
3.ใช้งานได้หลายอุปกรณ์
4.คุณภาพภาพและเสียง คมชัด ไม่กระตุก
5.การเชื่อมต่อกล้อง ไมค์ และอุปกรณ์ภายนอก ทำได้ง่าย

แต่ก่อนจะใช้งานได้นั้น ทุกท่านจะต้องสมัครการใช้งานก่อน แนะนำสมัครด้วยเมล์จะดีกว่าครับ 
โดยไปสมัครที่  zoom.us  จากนั้นก็ดาวน์โหลดโปรแกรม หรือ APP Zoom Meeting มาลงในเครื่องเราได้เลย ส่วนวิธีการติดตั้ง และ ดาวน์โหลดโปรแกรม ผมไม่ได้กล่าวถึงนะครับ สามารถหาอ่านได้เลยในกระทู้ต่างๆซึ่งมีอยู่มากมาย 


Tag :  Zoom / Zoom Meeting
#2755
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยแรงบันดาลใจทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชอบที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งและแฟชั่นการแต่งกายสมัยนั้น





ทำให้ท่านพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดไอเดียสำหรับในการทำเครื่องประดับร่วมกับการศึกษาปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก กระทั่งกลายมาเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากยิ่งกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความสวยงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติและนอกเหนือจากนั้นทุกสินค้ามีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงให้เห็นถึงงานหัตถกรรมอย่างแท้จริง


#2756



นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2564 ธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถาการณ์โควิด-19 แล้วผ่านมาตรการต่างๆ เช่น พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ รวมแล้วจำนวน 8 แสนราย คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 4 แสนล้านบาท


ทั้งนี้ ล่าสุดธนาคารได้ออกมาตรการพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยระยะ 2 เดือนหรือนับตั้งแต่ส.ค.-ก.ย. 2564 แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีที่ถูกประกาศปิดกิจการ ซึ่งรวมถึง เจ้าของกิจการและลูกจ้าง ขณะนี้ มีลูกหนี้ขอรับความช่วยเหลือแล้วประมาณ 1 หมื่นราย


นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือนหรือนับตั้งแต่ก.ค.-ธ.ค.2564 สำหรับลูกหนี้รายย่อยวงเงินมูลหนี้ไม่เกิน 2 แสนบาท ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยเปิดให้ลูกหนี้ขอรับความช่วยเหลือตั้งแต่เมื่อวานผ่าน MyMo มีลูกหนี้ขอรับความช่วยเหลือแล้วประมาณ 5 หมื่นราย

ทั้งนี้ สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยดังกล่าว ธนาคารมีกลุ่มเป้าหมายลูกหนี้จำนวนประมาณ 7 แสนราย มูลหนี้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ จะแบ่งเป็นลูกหนี้ที่คาดว่า จะเข้ามาขอความช่วยเหลือในเดือนสิ้นเดือนนี้ประมาณ 3.5 แสนราย อีก 3.5 แสนรายเป็นเป้าหมายในเดือนถัดไป
สำหรับลูกหนี้กลุ่มครูนั้น ทางธนาคารได้จัดมหกรรมแก้หนี้ครู โดยให้ลูกหนี้กลุ่มดังกล่าวยื่นขอรับความช่วยเหลือตั้งแต่มิ.ย.ถึง สิ้นเดือนนี้ คาดว่า จะมีลูกหนี้ขอรับความช่วยเหลือประมาณ 2.3 หมื่นราย คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)กล่าวว่า ธอส. ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่าน 2 มาตรการเร่งด่วนล่าสุด คือ ลูกค้าทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการทั้งในและนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือโดยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน คือ ส.ค.- ต.ค.2564 เปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ตั้งแต่ 19 ก.ค.นี้


ล่าสุด ณ วันที่ 22 ก.ค.มีลูกค้าแจ้งขอเข้ามาตรการที่ 15 และ มาตรการที่ 16 รวมจำนวนรวมประมาณ 5 หมื่นบัญชี เป็นมูลหนี้ 5.13 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นมาตรการที่ 15 จำนวน 4.77 หมื่นบัญชี มูลหนี้ 4.88 หมื่นล้านบาท และมาตรการที่ 16 จำนวน 2.25 พันบัญชี เป็นเงิน 2.48 พันล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ธอส. สามารถช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 18 มาตรการ รวมเป็นจำนวนสูงสุดมากกว่า 9.25 แสนบัญชี เงินต้นคงเหลือ 7.96 แสนล้านบาท


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(ธพว.)กล่าวว่า ขณะนี้ มีลูกหนี้ขอเข้ามาตรการพักชำระหนี้ล่าสุดของธนาคารจำนวน 1.86 พันราย มูลหนี้ 466 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีประมาณ 2% ที่พิจารณาแล้วว่า ยังมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ทั้งนี้ เมื่อรวมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือแล้วประมาณ 2.71 หมื่นราย เป็นเงิน 4.2 หมื่นล้านบาท


สำหรับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)แหล่งข่าวเผยว่า มียอดลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอก 4 ได้ลงทะเบียนเข้ามาตรการพักชำระหนี้ระหว่างก.ค.- ธ.ค.2564 แล้วจำนวน 6.59 หมื่นราย ส่วนยอดพักชำระหนี้จากโควิด-19 ระลอก 3 มีจำนวน 7.62 หมื่นราย วงเงิน 3.4 หมื่นล้านบาท สำหรับยอดพักชำระหนี้ทั้งระบบในปีบัญชี 2563/2564 หรือ เม.ย.2563 – 31 มี.ค. 2564 มีจำนวน 3.35 ล้านราย มูลหนี้ 1.12 ล้านล้านบาท
#2757



สมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับเดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และเดอะอาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ (เอเอซี) ร่วมแถลงข่าวยืนยันการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 12 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2021 ที่สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ในนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากต้องยกเลิกไปในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การแข่งขันกอล์ฟกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2009 เพื่อเป็นเวทีพัฒนานักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการเดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพน ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายลุ้นตั๋วลุยศึก ดิ โอเพน โดยในปี 2020 การแข่งขันถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด -19 ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันเผยกำหนดการแข่งขันในปี 2021 จะกลับมาดวลวงสวิงระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งใน 42 ประเทศสมาชิกของสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก และนครดูไบก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นทุกปี รวมถึงการแข่งขันรายการ ดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ของยูโรเปียนทัวร์ และรายการดีพี เวิลด์ทัวร์ แชมเปียนชิพ

ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน ประธานสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก เฟร็ด ริดลีย์ ประธานมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของอาร์แอนด์เอ กล่าวร่วมกันถึงการจัดการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2021 ว่า "การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์ส ในปีนี้ของฮิเดกิ มัตสึยามา ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 สมัย เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ในฐานะที่เวทีสำหรับการพัฒนากีฬากอล์ฟและความสามารถของนักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาค เราขอขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสมาพันธ์ฟอล์ฟเอมิเรตส์ และดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ที่ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันในปีนี้ และเรามุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการแข่งขันในปีนี้ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อมอบโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น ที่สมควรได้รับโอกาสเหล่านี้ ขณะที่สนามดูไบครีกจะช่วยยกระดับมาตรฐานสนามที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ และเราก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นการประชันฝีมือของนักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแถวหน้าของเอเชีย-แปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายนนี้"

สำหรับสนามดูไบ ครีก เปิดบริการในปี 1993 เป็นสนาม 18 หลุม พาร์ 71 ซึ่งเริ่มแรกออกแบบโดยคาร์ล ลิตเท่น ก่อนจะมีการออกแบบใหม่ในปี 2004 นำทีมออกแบบโดย โธมัส บียอร์น สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ในปี 1999 และ 2000 และรายการ ดูไบ ครีก โอเพ่น ซึ่งเรย์ฮัน โธมัส รองแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปี 2018 โชว์ฟอร์มทำสถิติสนามในปี 2017 เมื่อเร็วๆนี้ สนามดูไบ ครีก เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดูไบ แชมเปียนชิพ รายการในเวิลด์ อเมเจอร์ ทัวร์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ด้าน ชีค ฟาฮิม บิน สุลต่าน อัล กอซิมี ประธานสมาพันธ์กอล์ฟเอมิเรตส์ กล่าวว่า "หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ มาหลายปีในฐานะสมาชิกของสมาพันธ์กอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีมากที่จะได้ต้อนรับการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้สู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก การแข่งขันรายการนี้มีความหมายอย่างมากกับบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นในเอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสนับสนุนสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซฟิก, มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และอาร์แอนด์เอ ในความพยายามจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จร่วมกันในการสร้างเวทีเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเกมกีฬากอล์ฟ"

คริสโตเฟอร์ เมย์ ประธานประธานกรรมการบริหารของดูไบกอล์ฟ กล่าวว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ เป็นการรวมตัวกันของเหล่านักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรผู้ก่อตั้งทัวร์นาเมนต์ เลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าการแข่งขันเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปีนี้ จะเป็นบททดสอบที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัย และเรากำลังเฝ้ารอที่จะได้เป็นเวทีแห่งการประชันฝีมือของบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วโลกและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมกีฬากอล์ฟ"

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ การแข่งขันรายการนี้คือบันไดก้าวแรกสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำของโลกของนักกอล์ฟหลายคน รวมถึง มัตสึยามา ซึ่งคว้าแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 ครั้ง และมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์หลังชนะเลิศรายการมาสเตอร์ส ในปี 2021

ทางด้าน หลิน ยู่ซิน นักกอล์ฟมือสมัครเล่นจากจีน ดีกรีแชมป์ปี 2017 และ 2019 หวังสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 3 สมัย หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ทำผลงานผ่านการตัดตัวในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 149 ที่สนามรอยัล เซนต์ จอร์จส

นักกอล์ฟถนัดซ้ายมือสมัครเล่นอันดับ 16 ของโลก กล่าวกว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพเป็นทัวร์นาเมนต์ที่วิเศษมากที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ลงเล่นรายการเมเจอร์ทั้งในมาสเตอร์ส และดิ โอเพน ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณรายการนี้อย่างมาก"
#2758



"ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 นอกจากจะเป็นพื้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วมีการเปิดพื้นที่สำหรับการเจรจาธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาไม่ต้องกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐหรือสถานที่กักตัวทางเลือก

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ได้รับนักท่องเที่ยงต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยนอกเหนือจากนักท่องเที่ยวแล้วทำให้จังหวัดภูเก็ต ได้กลายเป็นช่องทางเข้าประเทศใหม่ของไทยที่ทำให้มีนักธุรกิจหลายชาติที่ต้องการเข้ามาเจรจาธุรกิจ ซึ่งได้ใช้ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เป็นสถานที่นัดพบเพื่อเจรจาด้านธุรกิจสร้างพันธมิตรทางการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ การเซ็นสัญญาโครงการลงทุน

สำหรับรูปแบบการใช้ภูเก็ตเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจมี 3 ระดับ คือ 

1.บริษัทแม่ในต่างประเทศมาติดตามงานบริษัทลูกในประเทศไทย 

2.บริษัทไทยและบริษัทต่างชาติเจรจาธุรกิจกัน 

3.บริษัทไทยและบริษัทต่างชาติมาลงนามสัญญาธุรกิจ

ทั้งนี้ มีบริษัทที่ใช้ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เป็นพื้นที่ลงนามธุรกิจแล้ว คือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ลงนามซื้อหุ้นของบริษัท Allnex Holding Germany II GmbH วงเงิน148,417 ล้านบาท เมื่อวันที่วันที่ 10 ก.ค.2564 โดยมีผู้บริษัทระดับสูงของทั้ง 2 บริษัท เดินทางมาที่ภูเก็ตเพื่อลงนามด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเป็นการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดโดยบริษัทไทยในรอบเกือบทศวรรษ

"การลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นครั้งนี้เกิดขึ้นที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายนำร่องเปิดประเทศของรัฐบาล และเพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นที่ โดยจีซีได้ศึกษาแผนการลงทุนครั้งนี้มาร่วมปี และทั้ง 2 ฝ่าย ตื่นเต้นที่จะมีร่วมมือกัน" นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC กล่าว

ส่วนประเด็นที่สหภาพยุโรป (EU) ประกาศประเทศไทยออกจากประเทศที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ห้ามเดินทางไปยังประเทศดังกล่าว นายสนั่น กล่าวว่า มีผลต่อการเปิดประเทศของไทยอย่างแน่นอนทั้งเรื่องของภูเก็ตแซนด์บ็อก หรือโครงการเปิดพื้นที่ที่จะตามมา ซึ่งสิ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการ คือ การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนและแรงงาน 

โดยเฉพาะภาคการผลิตที่ได้รับการฉีดวัคซีนน้อยมาก แต่ละโรงงานได้ติดต่อมาที่หอการค้าไทยเพื่อขอวัคซีน แต่ได้ชี้แจงว่าไม่มีวัคซีนจะจัดให้ โดยเฉพาะโรงงานใน จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการภาคการผลิตและการส่งออกของไทยโดยโรงงานเหล่านี้ควรฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ขึ้นไป รวมทั้งการตรวจแบบแร็บบิทเทสต์ในโรงงานเพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อออก


สำหรับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ได้เปิดประเทศไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ตรงกับวันที่ครบรอบภารกิจ 99 วันแรกในการทำงานของคณะกรรมการหอการค้าไทยชุดนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ และนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ซึ่งบทเรียนของการเปิดภูเก็ต นั้น หอการค้าไทยเห็นด้วยที่จะมีการนำไปขยายผลการทดลองเปิดนี้ไปยังพื้นที่อื่นของประเทศให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องการจัด COE (Certificate of Entry) และขอเสนอให้นำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น Digital Vaccine Passport ที่ได้มาตรฐานและนานาชาติยอมรับเพราะไม่สามารถปลอมแปลง และตรวจสอบความถูกต้องได้

ในขณะที่ สำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานว่ามีกลุ่มนักธุรกิจเข้ามาใช้ภูเก็ตเป็นฐานในการประชุมเจรจาธุรกิจมากขึ้นภายหลังจากเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้เพียงสัปดาห์แรก โดยมีกลุ่มนักธุรกิจจากยุโรปและสหรัฐรวมถึงนักธุรกิจไทย เดินทางมาเจรจาธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตในภูเก็ตและจะมีตามมาอีกหลายรายรวมไปถึงผู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เท่าที่มีข้อมูลในขณะนี้ก็มีเพียงปตท.ที่ลงนามเซ็นสัญญา ซึ่งก็อาศัยโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพราะเข้ามาแล้วไม่ต้องกักตัว 14 วัน เมื่อเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับได้ทันที ซึ่งเป็นทางออกของการดำเนินธุรกิจ เพราะการเซ็นสัญญาหรือการลงนาม ก็ต้องมีการตรวจเอกสารต่างๆเพื่อให้เกิดชัดเจนและสมบูรณ์ ส่วนจะมีธุรกิจอื่นอีกหรือไม่ทางหอการค้าจังหวัดยังไม่มีข้อมูลแต่จะประสานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้จัดทำแบบสอบถามสำหรับผู้ที่เข้ามาในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกว่า มาเพื่ออะไร เช่น ท่องเที่ยว พักผ่อนพร้อมครอบครัว เจรจาธุรกิจ เซ็นสัญญาทางธุรกิจ เป็นต้น

ขณะนี้ต่างชาติที่เข้ามาภูเก็ต อันดับ 1 เป็นสหรัฐ รองลงมาเป็นอังกฤษ อิสราเอล เยอรมันและฝรั่งเศส โดยส่วนใหญ่ก็จะมาพักผ่อน พบครอบครัว ดูแลธุรกิจของตนเองที่ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ โดย 9,000 คน เป็นคนไทย 2,000 คน ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ ส่วนท่องเที่ยวยังน้อยประมาณ 30% เพราะไม่ได้เป็นช่วงไฮซีซั่น

"โมเดลเจรจาธุรกิจผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อก เป็นเรื่องที่หอการค้าจังหวัดภูเก็ตพร้อมที่จะสนับสนุน คาดว่าน่าจะมีมาเรื่อยๆ ซึ่งหอการค้าจังหวัดภูเก็ตจะประสานข้อมูลจาก ททท.เพิ่มเติม"

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2564 มีการติดตามความคืบหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยมีนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1–21 ก.ค.2564 รวม 9,358 คน และมียอดการจองห้องพักตามมาตรฐาน SHA+ สะสมในเดือน ก.ค.-ก.ย.2564 อยู่ที่ 244,703 คืน และมีอัตราเข้าพัก 10.12% สร้างรายได้ 534.31 ล้านบาท
#2759


 
 
โควิด ระลอกล่าสุด กดราคาอสังหาฯ ต่ำสุด โอกาส เอเจนซี่ มองตลาดอสังหาฯ ในไตรมาส 2 ปี 2565 จะเริ่มมีโอกาสฟื้นตัว หากการกระจายวัคซีนครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมสวนกระแส เปิดตัว LEASEBACK PROGRAM  ชี้เป็นโอกาสของนักลงทุน เลือกช้อปของดี โดยเน้นทำเลศักยภาพที่มีดีมานด์ซื้อและปล่อยเช่าสูงเข้าพอร์ต โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนและหวังผลตอบแทนได้ในระยะยาว
 
นายภัทรภูริต รุ่งจตุรภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกาส เอเจนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และผู้บริหารการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์วิถีใหม่ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในรอบ 1 ปี นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนมาถึงการแพร่ระบาดในระลอกล่าสุด พบว่า ผู้บริโภคยังมีความต้องการลงทุนเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ที่ผ่านมายังคงชะลอการใช้จ่ายเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรอจังหวะที่วิกฤตเริ่มคลี่คลายลง โดยคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง หากการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถกระจายครอบคลุมทั่วประเทศได้
 
พร้อมกันนั้น ประเมินราคาอสังหาฯ ภายหลังโควิด-19 แพร่ระบาดระลอกล่าสุด ได้ปรับลดลงจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว จึงมองเป็นโอกาสทองของนักลงทุนและผู้ซื้อที่มีความพร้อม เพื่อหวังต่อยอดการลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพที่มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทำเลตามแนวรถไฟฟ้า หรือ แม้แต่ทำเลย่านธุรกิจ ฯลฯ รวมถึงทำเลที่มีดีมานด์ซื้อและปล่อยเช่าสูง เช่น สุขุมวิท ทองหล่อ อโศก พระราม 9 เป็นต้น
 
ทั้งนี้ โอกาส เอเจนซี่ (OKAS Agency) ในฐานะผู้บริหารการปล่อยเช่าอสังหาฯ วิถีใหม่ ที่มุ่งเน้นดูแล และบริหารการปล่อยเช่าให้กับนักลงทุนแบบ 360 องศา ตัวแทนขายโครงการอสังหาฯ เพื่อการลงทุน (Investment Property) หรือ IP ในรูปแบบของ Branded Residence ของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ขอแนะนำโครงการคุณภาพที่น่าลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ซึ่งทุกโครงการ มีจุดเด่นโดยตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่สามารถขายต่อ หรือ ปล่อยเช่าได้ราคาดี อยู่ใจกลางเมืองและใกล้รถไฟฟ้า พร้อมครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย และรับการบริการและการจัดการในรูปแบบโรงแรม ในราคาที่จับต้องได้
 
นำเสนอโครงการ CASSIA RESIDENCES RAMA 9 BANGKOK และเปิดตัวแพ็คเกจสำหรับนักลงทุน LEASEBACK PACKAGE ที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูงสุดปีละ 6% ต่อเนื่องตลอด 10 ปี โดย OKAS Agency พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน ได้แก่ สิทธิ์เข้าพัก 15 คืนต่อปี และสิทธิประโยชน์ Sanctuary Club จาก CASSIA By Banyan Tree เริ่มเพียง 4.29 ลบ.
 
สำหรับโครงการ CASSIA RESIDENCES RAMA 9 BANGKOK เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับพรีเมียม บริหารใน รูปแบบโรงแรม Branded Residence ภายใต้แบรนด์ CASSIA By Banyan Tree ตั้งอยู่ในทำเลเศรษฐกิจ "พระราม 9"  การเดินทางสะดวก เพียง 1 นาที จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน รฟม. รูปแบบห้องแบบ Duplex ทั้งโครงการ โดยในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Co-working space, Meeting Room, Kid room, Gym และ Sky bar   
#2760



ครั้งแรกของการผนึกกำลังของตัวจริงเรื่องชั้นในชาย เมื่อ เจ.เพลส (J.Press) หนึ่งในผู้ผลิตกางเกงชั้นในชายรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกว่า 38 ปี การันตี คุณภาพระดับสากล ด้วยการผลิตสินค้าให้แบรนด์เนมระดับโลกมานับไม่ถ้วน และ "เบ้อเร่อ" (BERRER) เจ้าตลาดเสื้อผ้าผู้ชายไซส์ใหญ่ แบรนด์ดังสุดชิคในหมู่หนุ่มๆ ไซส์ เบ้อเร่อที่รักการแต่งตัวอย่างมั่นใจ เท่ในสไตล์ที่เป็นตัวเอง เปิดแคมเปญ "J.PRESS x BERRER สบายหนุ่มสไตล์เบ้อเร่อ" เอาใจหนุ่มไซส์ใหญ่ ด้วยกางเกงชั้นในคุณภาพเยี่ยมถึงสองรุ่น

กางเกงสองรุ่นนี้มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ เนื้อผ้านุ่มสบาย ยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศได้ดี รอบวงขานุ่มและช่วงขอบเอวเป็นผ้าไม่ระคายเคืองผิวสัมผัส และสามารถยืดได้สูงสุดถึง 56 นิ้ว ในขนาดตั้งแต่ 40"-44" / 44"-48" / 48"-52" / 52"-56" (นิ้ว) เอาใจคุณผู้ชายและคุณสาวๆ ที่ต้องดูแลหนุ่มๆ หุ่นเบ้อเร่อที่บ้าน

"J.Press x BERRER" มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่น Perfect Style เป็นกางเกงในทรง Brief (ขาเว้า) มีสีขาวและเทาอ่อน เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการความเนี๊ยบ ดีไซน์ขอบขา เว้าโอบกระชับ เคลื่อนไหวสะดวก ยืดหยุ่นกระชับแต่ไม่เจ็บต้นขา และ รุ่น Strong Style เป็นกางเกงในทรง Trunk (ขาสั้น) มีสีดำและสีเทาเข้ม สำหรับคนรุ่นใหม่ไลฟ์ สไตล์ลุยๆ ด้วยทรงขายาวเข้ารูป แต่วงขานุ่มด้วยการตัดเย็บชั้นเยี่ยม ช่วยป้องกัน การเสียดสีต้นขาได้ดี ปลายขากระชับ ใส่สบายไม่อึดอัด ในราคา 590 บาท / แพค 2 ตัว