(https://img2.pic.in.th/pic/002c7cdb95a246d22c0.jpg) (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
พิมพ์นามบัตร
การพิมพ์นามบัตรนั้นแต่เดิมถูกใช้เพื่อสำหรับในการแนะนำตัวของตนให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกฝ่ายสามารถจดจำตัวเองก้าวหน้าขึ้น และก็ทำให้อีกข้างรู้โปรไฟล์ของพวกเราโดยคร่าวได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่และก็เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ สำหรับในการพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)แจกนั้นเป็นที่ชื่นชอบกันอย่างยิ่งในสมัยก่อนในสมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
เพราะว่าถ้าเกิดต้องการเขียนเบอร์โทรศัพท์จะต้องใช้การเขียนลงสมุดแล้วจะต้องถามรายละเอียดที่ได้รับมาจากบุคคลนั้น ซึ่งบางครั้งก็อาจจะไม่
สะดวกรวมทั้งทำให้เสียเวลาอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ามีการสัมมนาหรือพบปะคนอื่นๆด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรก็เลยนับเป็น
สิ่งที่มีความต้องการอย่างเสียมิได้
ถึงแม้ในตอนนี้จะมีวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยในการเสนอแนะตัวเองรวมทั้งโปรไฟล์ได้มากมายหลายแนวทาง แต่ถ้าว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงเป็น "Name Card" แม้กระนั้นแปลงเป็น "Business Card" ซึ่งสื่อความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ ในการติดต่อธุรกิจกับคนอื่นนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นสิ่งที่ต้องการมากในตอนนี้ โดยเฉพาะค่าความนิยมของญี่ปุ่นนั้นนับว่าให้พกนามบัตรติดตัวตลอดระยะเวลาและให้ความสำคัญมาก
กว่ากระเป๋าธนบัตรอีกด้วย เพราะว่าถ้าเกิดมีการพบเห็นบุคคลภายนอกจนมีการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรจัดว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น เพราะฉะนั้นการพิมพ์นามบัตรจึงมีความสำคัญอย่างที่สุดไม่ใช่แค่ในเชิงธุรกิจแม้กระนั้นรวมถึงบุคคลทั่วไปด้วย
ลักษณะของนามบัตรนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์การใช้แรงงาน อาทิเช่น ใช้เสนอแนะเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ ฯลฯ โดยเนื้อหาข้อมูลในการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างออกไป โดยธรรมดาข้อมูลพื้นฐานที่ควรมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหน คือ 1.ชื่อ – ชื่อสกุลของผู้ครอบครองบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือหนทางติดต่อโดยจะเป็นวิธีใดก็ได้ประการใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายแบบก็ได้ตามแต่สบาย ซึ่งในขณะนี้เว้นแต่ระบุเบอร์โทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ อาจจะเพิ่มเติมที่อยู่อีเมล
facebook LineID เพิ่มเติมฯลฯ แม้กระนั้นแม้เป็นการพิมพ์นามบัตรเพื่อธุรกิจก็ควรมีเพิ่มเติมในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ และอาจจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมถึงการใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัทพ์บางครั้งก็อาจจะต้องเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
เชื่อใจเป็นต้น
สิ่งพิมพ์นามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งแรงพอควร ไม่ควรบางหรืออ่อนตัวจนกระทั่งเกินความจำเป็น ซึ่ง
ขนาดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีต่างกันออกไปบ้างน้อยแต่ไม่สมควรแตกต่างจากขนาดมาตรฐานมากสักเท่าไรนัก โน่นคือ 3.5 x 2.125 นิ้ว เพราะว่าขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่เข้ากับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้ควรจะมีความดก
260 เอ็งรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยเดี๋ยวนี้นิยมพิมพ์สองด้านโดยจะชอบกำหนดรายละเอียดเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งและก็ภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งนับว่าเหมาะในการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะมีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้เกิดความงดงามนั้นมีความจำเป็นอย่างมากเพราะว่าช่วยเพิ่มความน่าไว้วางใจสำหรับในการทำธุรกิจ สำหรับ
คนที่ไม่ทราบท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวถ้าได้มองเห็นนามบัตรที่ดูภูมิฐานก็จะมีผลให้เชื่อมั่นว่าบริษัทท่านจำต้องมองน่าไว้ใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเพิ่มในกับนามบัตรก็เลยได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลาม ตัวอย่างเช่น การเคลือบ UV ฉาบเงา ฉาบด้าน ฉาบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทอง และก็ฯลฯขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง