ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า แบบครบวงจรเป็นยังไงพร้อมกับอัปเดตเกี่ยวกับอนาคตของแบตเตอรี่อีวีที่เราควรมีความสนใจ
สนใจอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries
ตอนนี้ พวกเราจะมองเห็นรถยนต์ไฟฟ้ามากมายรุ่นจากนานาประการแบรนด์วิ่งเดินทางบนท้องถนนมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากหลักการช่วยเหลือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วน 30% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งสิ้นข้างในปี 2573
แผนการนี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ความเป็นกลางทางคาร์บอนของเมืองไทย ที่มุ่งลดการปลดปล่อยก๊าสเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญ เนื่องมาจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสีย ทำให้คุณภาพอากาศดียิ่งขึ้น และก็ยังช่วยลดการพึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านี้ การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวโยง ดังเช่น การผลิตแบตเตอรี่รวมทั้งสถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานรวมทั้งเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"
สรุปความเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: ช่องทางรวมทั้งความท้าทาย
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างเร็ว ด้วยหลักการส่งเสริมจากรัฐบาล รวมทั้งความสนใจของลูกค้าที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นได้จากยอดจดทะเบียนที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาที่ถูกลง
ปัจจัยสำคัญที่ขับตลาด:
- แนวทางส่งเสริม: รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริม ได้แก่ การผ่อนผันภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง
- ความมากมายของรุ่นรถยนต์: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งจากแบรนด์ดังระดับโลกรวมทั้งแบรนด์จีนที่เข้ามาแข่ง
- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าลดลงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้บริโภคทั่วๆไปสามารถเป็นเจ้าของได้
- องค์ประกอบเบื้องต้น: จำนวนสถานีชาร์จมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้ลดความไม่สบายใจเรื่องระยะทางในการขับขี่
ความท้าทาย
- การแข่งขันชิงชัยสูง: มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดมากเพิ่มขึ้น นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการประลองด้านราคาและเทคโนโลยี
- มาตรการส่งเสริม: ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการยืดอายุมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล
- ส่วนประกอบเบื้องต้น: แม้จะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ยังจำต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
จังหวะ:
- ตลาดยังมีศักยภาพเติบโต: ด้วยปริมาณประชากรและก็การขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังได้โอกาสเติบโตอีกมากมาย
- สิ่งใหม่: มีการพัฒนาของใหม่ใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถและก็เทคโนโลยีที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น
- ความคงทนถาวร: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลภาวะแล้วก็เป็นไปตามจุดหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่น่าดึงดูด ผู้ซื้อมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น แล้วก็เทคโนโลยีก็ปรับปรุงไปอย่างรวดเร็ว แต่ ยังคงมีความท้าบางประการที่จะต้องปรับปรุง เพื่อให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สิ่งที่น่าเฝ้าดูในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- หลักการของรัฐบาล: การยืดอายุมาตรการผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
- การแข่งขันชิงชัยของผู้ผลิตรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆและการเปลี่ยนแปลงราคา
- การพัฒนาส่วนประกอบเบื้องต้น: การขยายจำนวนสถานีชาร์จรวมทั้งการพัฒนาระบบชาร์จที่นำสมัย
คำเสนอแนะสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- ผู้บริโภค: ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ แล้วก็พิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้งาน
- ผู้ประกอบการ: ควรปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด และก็มองหาช่องทางสำหรับเพื่อการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างเร็ว หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดนี้เป็น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการพัฒนาโดยตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ราคาถูกลง รวมทั้งตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น
แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาแห่งตลาดแบตเตอรี่ในตอนนี้
- ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาด เนื่องจากว่ามีคุณภาพสูง แก่การใช้แรงงานนาน รวมทั้งราคาแพงที่ลดน้อยลง
- ผู้ผลิตจากจีนครองตลาด: บริษัทจีนหลายที่ อย่างเช่น CATL และก็ BYD เป็นผู้นำสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน รวมทั้งมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก
ความท้าแล้วก็โอกาสของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความผันผวนสูง ทำให้เงินลงทุนการผลิตแบตเตอรี่มากขึ้น
- การแข่งขันชิงชัยสูง: มีผู้สร้างแบตเตอรี่รายใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ กระตุ้นให้เกิดการประลองด้านราคาและก็เทคโนโลยี
แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต
- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าเฝ้าดู เหตุเพราะมีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง และก็มีอายุการใช้แรงงานเป็นเวลายาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ เพราะวัตถุดิบราคาถูก และมีแนวทางการผลิตที่ง่ายดายกว่า
- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้ว่าจะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ว่ายังคงได้รับความพอใจ เนื่องมาจากมีอายุการใช้งานช้านาน แล้วก็ทนต่อสภาพภูมิอากาศได้ดิบได้ดี
สิ่งที่น่าจับตามอง:
- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ๆ
- การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่
- นโยบายสนับสนุนของรัฐบาล
- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้เพื่อสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่
ข้อเสนอ:
- ลูกค้า: ควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
- ผู้ประกอบกิจการ: ควรติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด และก็พัฒนาของใหม่ใหม่ๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสำหรับการแข่งขัน
ตามรายงานล่าสุดจาก SNE Research พบว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 60.5% ในปี 2565
บริษัทที่ได้รับตำแหน่งอันดับ 1 คือ Contemporary Amperex Technology (CATL) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้จัดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565
อันดับที่ 2เป็นBYD ผู
มาดูกันว่าเทรนด์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรคืออะไร กับอัปเดตเกี่ยวกับอนาคตของแบตเตอรี่อีวีที่พวกเราควรให้ความสนใจ!
"ปัจจุบัน พวกเราจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้านานาประการรุ่นจากหลากหลายแบรนด์วิ่งสัญจรบนถนนมากยิ่งขึ้นซึ่งมีต้นเหตุมาจากแผนการเกื้อหนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีรูปทรง 30% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั้งปวงด้านในปี 2573
แนวทางนี้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซสภาวะเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาภาวการณ์โลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็เลยเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปลดปล่อยไอเสีย ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดการพึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย
นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังทำให้มีการเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น การผลิตแบตเตอรี่แล้วก็สถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานรวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"
สรุปความเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: ช่องทางและความท้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแนวทางสนับสนุนจากรัฐบาล และก็ความพอใจของลูกค้าที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นได้จากยอดจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นโดยตลอด และราคาที่ถูกลง
ปัจจัยหลักที่เคลื่อนตลาด:
- นโยบายผลักดัน: รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน ดังเช่น การผ่อนผันภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง
- ความหลากหลายของรุ่นรถยนต์: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากแบรนด์ดังระดับโลกรวมทั้งแบรนด์จีนที่เข้ามาแข่งขัน
- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าลดน้อยลงโดยตลอด ทำให้ผู้ซื้อทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้
- องค์ประกอบเบื้องต้น: จำนวนสถานีชาร์จมากขึ้น ทำให้ลูกค้าลดความกังวลใจเรื่องระยะทางสำหรับในการขับขี่
ความท้า:
- การประลองสูง: มีผู้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการประลองด้านราคารวมทั้งเทคโนโลยี
- มาตรการช่วยเหลือ: ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล
- ส่วนประกอบเบื้องต้น: แม้จะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ยังจะต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
โอกาส:
- ตลาดยังมีประสิทธิภาพเติบโต: ด้วยปริมาณประชาชนและการขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังได้โอกาสเติบโตอีกมาก
- นวัตกรรม: มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถแล้วก็เทคโนโลยีที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
- ความคงทนถาวร: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลภาวะและเป็นไปตามจุดมุ่งหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงแปลงผ่านที่น่าดึงดูด ผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งเทคโนโลยีก็ปรับปรุงไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ยังคงมีความท้าบางประการที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สิ่งที่น่าสังเกตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- นโยบายของรัฐบาล: การต่ออายุมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
- การแข่งขันของผู้สร้างรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ๆแล้วก็การปรับราคา
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: การขยายจำนวนสถานีชาร์จแล้วก็การพัฒนาระบบชาร์จที่ล้ำยุค
ข้อเสนอแนะสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- ผู้ใช้: ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนตัดสินใจซื้อ และก็พิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้งาน
- ผู้ประกอบกิจการ: ควรจะปรับตัวให้ทันต่อความเคลื่อนไหวของตลาด แล้วก็มองหาโอกาสสำหรับในการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างเร็ว หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ขับตลาดนี้เป็น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการพัฒนาโดยตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีคุณภาพสูงมากขึ้น ราคาไม่แพงลง และก็ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น
แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาแห่งตลาดแบตเตอรี่ในขณะนี้
- ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงได้รับความนิยมสูงที่สุดในตลาด เนื่องจากว่ามีคุณภาพสูง แก่การใช้แรงงานนาน และแพงที่ลดลง
- ผู้สร้างจากจีนครองตลาด: บริษัทจีนหลายแห่ง อาทิเช่น CATL และ BYD เป็นผู้นำสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน และก็มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก
ความท้าทายรวมทั้งช่องทางของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความผันแปรสูง ทำให้ทุนการสร้างแบตเตอรี่มากขึ้น
- การประลองสูง: มีผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหม่เข้าสู่ตลาดเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาแล้วก็เทคโนโลยี
แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต
- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าเฝ้ามอง เพราะว่ามีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง และแก่การใช้แรงงานนานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าดึงดูด เนื่องด้วยวัตถุดิบราคาถูก และก็มีแนวทางการผลิตที่ง่ายดายยิ่งกว่า
- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้จะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับความสนใจ เหตุเพราะแก่การใช้งานยาวนาน และก็ทนต่อสภาพอากาศเจริญ
สิ่งที่น่าจับตามอง:
- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใหม่ๆ
- การประลองระหว่างผู้สร้างแบตเตอรี่รายใหญ่
- แนวทางสนับสนุนของรัฐบาล
- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้สำหรับเพื่อการผลิตแบตเตอรี่
คำแนะนำ:
- ผู้ซื้อ: ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ
- ผู้ประกอบการ: ควรจะติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งปรับปรุงของใหม่ใหม่ๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสำหรับเพื่อการแข่งขัน
ตามรายงานปัจจุบันจาก SNE Research พบว่าผู้สร้างแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 60.5% ในปี 2565
บริษัทที่ได้รับตำแหน่งอันดับ 1หมายถึงContemporary Amperex Technology (CATL) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้จัดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565
ชั้นที่ 2หมายถึงBYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็แบตเตอรี่ มีปริมาณการติดตั้งมากขึ้น 168.3% คิดเป็น 60.6 GWh และก็ส่วนแบ่งการตลาดโลกอยู่ที่ 13.6% เพิ่ม
แหล่งที่มา บทความ รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries
สนใจอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries
ตอนนี้ พวกเราจะมองเห็นรถยนต์ไฟฟ้ามากมายรุ่นจากนานาประการแบรนด์วิ่งเดินทางบนท้องถนนมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากหลักการช่วยเหลือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วน 30% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งสิ้นข้างในปี 2573
แผนการนี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ความเป็นกลางทางคาร์บอนของเมืองไทย ที่มุ่งลดการปลดปล่อยก๊าสเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญ เนื่องมาจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปล่อยไอเสีย ทำให้คุณภาพอากาศดียิ่งขึ้น และก็ยังช่วยลดการพึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านี้ การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวโยง ดังเช่น การผลิตแบตเตอรี่รวมทั้งสถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานรวมทั้งเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"
สรุปความเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: ช่องทางรวมทั้งความท้าทาย
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างเร็ว ด้วยหลักการส่งเสริมจากรัฐบาล รวมทั้งความสนใจของลูกค้าที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นได้จากยอดจดทะเบียนที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาที่ถูกลง
ปัจจัยสำคัญที่ขับตลาด:
- แนวทางส่งเสริม: รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริม ได้แก่ การผ่อนผันภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง
- ความมากมายของรุ่นรถยนต์: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งจากแบรนด์ดังระดับโลกรวมทั้งแบรนด์จีนที่เข้ามาแข่ง
- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าลดลงอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้บริโภคทั่วๆไปสามารถเป็นเจ้าของได้
- องค์ประกอบเบื้องต้น: จำนวนสถานีชาร์จมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้ลดความไม่สบายใจเรื่องระยะทางในการขับขี่
ความท้าทาย
- การแข่งขันชิงชัยสูง: มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดมากเพิ่มขึ้น นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการประลองด้านราคาและเทคโนโลยี
- มาตรการส่งเสริม: ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการยืดอายุมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล
- ส่วนประกอบเบื้องต้น: แม้จะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ยังจำต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
จังหวะ:
- ตลาดยังมีศักยภาพเติบโต: ด้วยปริมาณประชากรและก็การขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังได้โอกาสเติบโตอีกมากมาย
- สิ่งใหม่: มีการพัฒนาของใหม่ใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถและก็เทคโนโลยีที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น
- ความคงทนถาวร: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลภาวะแล้วก็เป็นไปตามจุดหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่น่าดึงดูด ผู้ซื้อมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น แล้วก็เทคโนโลยีก็ปรับปรุงไปอย่างรวดเร็ว แต่ ยังคงมีความท้าบางประการที่จะต้องปรับปรุง เพื่อให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สิ่งที่น่าเฝ้าดูในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- หลักการของรัฐบาล: การยืดอายุมาตรการผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
- การแข่งขันชิงชัยของผู้ผลิตรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆและการเปลี่ยนแปลงราคา
- การพัฒนาส่วนประกอบเบื้องต้น: การขยายจำนวนสถานีชาร์จรวมทั้งการพัฒนาระบบชาร์จที่นำสมัย
คำเสนอแนะสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- ผู้บริโภค: ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ แล้วก็พิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้งาน
- ผู้ประกอบการ: ควรปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด และก็มองหาช่องทางสำหรับเพื่อการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างเร็ว หนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนตลาดนี้เป็น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการพัฒนาโดยตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ราคาถูกลง รวมทั้งตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น
แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาแห่งตลาดแบตเตอรี่ในตอนนี้
- ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาด เนื่องจากว่ามีคุณภาพสูง แก่การใช้แรงงานนาน รวมทั้งราคาแพงที่ลดน้อยลง
- ผู้ผลิตจากจีนครองตลาด: บริษัทจีนหลายที่ อย่างเช่น CATL และก็ BYD เป็นผู้นำสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน รวมทั้งมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก
ความท้าแล้วก็โอกาสของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความผันผวนสูง ทำให้เงินลงทุนการผลิตแบตเตอรี่มากขึ้น
- การแข่งขันชิงชัยสูง: มีผู้สร้างแบตเตอรี่รายใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ กระตุ้นให้เกิดการประลองด้านราคาและก็เทคโนโลยี
แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต
- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าเฝ้าดู เหตุเพราะมีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง และก็มีอายุการใช้แรงงานเป็นเวลายาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ เพราะวัตถุดิบราคาถูก และมีแนวทางการผลิตที่ง่ายดายกว่า
- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้ว่าจะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ว่ายังคงได้รับความพอใจ เนื่องมาจากมีอายุการใช้งานช้านาน แล้วก็ทนต่อสภาพภูมิอากาศได้ดิบได้ดี
สิ่งที่น่าจับตามอง:
- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ๆ
- การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่
- นโยบายสนับสนุนของรัฐบาล
- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้เพื่อสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่
ข้อเสนอ:
- ลูกค้า: ควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
- ผู้ประกอบกิจการ: ควรติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด และก็พัฒนาของใหม่ใหม่ๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสำหรับการแข่งขัน
ตามรายงานล่าสุดจาก SNE Research พบว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 60.5% ในปี 2565
บริษัทที่ได้รับตำแหน่งอันดับ 1 คือ Contemporary Amperex Technology (CATL) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้จัดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565
อันดับที่ 2เป็นBYD ผู
มาดูกันว่าเทรนด์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรคืออะไร กับอัปเดตเกี่ยวกับอนาคตของแบตเตอรี่อีวีที่พวกเราควรให้ความสนใจ!
"ปัจจุบัน พวกเราจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้านานาประการรุ่นจากหลากหลายแบรนด์วิ่งสัญจรบนถนนมากยิ่งขึ้นซึ่งมีต้นเหตุมาจากแผนการเกื้อหนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล หรือที่เรียกว่า '30@30' ที่มีเป้าหมายให้รถยนต์ไฟฟ้ามีรูปทรง 30% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดทั้งปวงด้านในปี 2573
แนวทางนี้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซสภาวะเรือนกระจกเพื่อแก้ปัญหาภาวการณ์โลกร้อน การหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็เลยเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ปลดปล่อยไอเสีย ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดการพึ่งเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย
นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังทำให้มีการเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น การผลิตแบตเตอรี่แล้วก็สถานีชาร์จ ซึ่งจะช่วยสร้างงานรวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง"
สรุปความเคลื่อนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย: ช่องทางและความท้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแนวทางสนับสนุนจากรัฐบาล และก็ความพอใจของลูกค้าที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นได้จากยอดจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นโดยตลอด และราคาที่ถูกลง
ปัจจัยหลักที่เคลื่อนตลาด:
- นโยบายผลักดัน: รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน ดังเช่น การผ่อนผันภาษี ทำให้ราคาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าถูกลง
- ความหลากหลายของรุ่นรถยนต์: มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากแบรนด์ดังระดับโลกรวมทั้งแบรนด์จีนที่เข้ามาแข่งขัน
- ราคาที่เข้าถึงได้: ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าลดน้อยลงโดยตลอด ทำให้ผู้ซื้อทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้
- องค์ประกอบเบื้องต้น: จำนวนสถานีชาร์จมากขึ้น ทำให้ลูกค้าลดความกังวลใจเรื่องระยะทางสำหรับในการขับขี่
ความท้า:
- การประลองสูง: มีผู้สร้างรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการประลองด้านราคารวมทั้งเทคโนโลยี
- มาตรการช่วยเหลือ: ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล
- ส่วนประกอบเบื้องต้น: แม้จะมีการพัฒนาสถานีชาร์จ แต่ยังจะต้องขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
โอกาส:
- ตลาดยังมีประสิทธิภาพเติบโต: ด้วยปริมาณประชาชนและการขยายตัวของเศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังได้โอกาสเติบโตอีกมาก
- นวัตกรรม: มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถแล้วก็เทคโนโลยีที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
- ความคงทนถาวร: การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลภาวะและเป็นไปตามจุดมุ่งหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
สรุป: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังอยู่ในช่วงแปลงผ่านที่น่าดึงดูด ผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งเทคโนโลยีก็ปรับปรุงไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ยังคงมีความท้าบางประการที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สิ่งที่น่าสังเกตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- นโยบายของรัฐบาล: การต่ออายุมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
- การแข่งขันของผู้สร้างรายใหญ่: การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ๆแล้วก็การปรับราคา
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: การขยายจำนวนสถานีชาร์จแล้วก็การพัฒนาระบบชาร์จที่ล้ำยุค
ข้อเสนอแนะสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- ผู้ใช้: ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างรุ่นต่างๆก่อนตัดสินใจซื้อ และก็พิจารณาถึงความเหมาะสมกับการใช้งาน
- ผู้ประกอบกิจการ: ควรจะปรับตัวให้ทันต่อความเคลื่อนไหวของตลาด แล้วก็มองหาโอกาสสำหรับในการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างเร็ว หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ขับตลาดนี้เป็น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ที่มีการพัฒนาโดยตลอด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีคุณภาพสูงมากขึ้น ราคาไม่แพงลง และก็ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น
แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน: ราชาแห่งตลาดแบตเตอรี่ในขณะนี้
- ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด: แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนยังคงได้รับความนิยมสูงที่สุดในตลาด เนื่องจากว่ามีคุณภาพสูง แก่การใช้แรงงานนาน และแพงที่ลดลง
- ผู้สร้างจากจีนครองตลาด: บริษัทจีนหลายแห่ง อาทิเช่น CATL และ BYD เป็นผู้นำสำหรับในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน และก็มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในโลก
ความท้าทายรวมทั้งช่องทางของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- ราคาของลิเทียม: ราคาของลิเทียมมีความผันแปรสูง ทำให้ทุนการสร้างแบตเตอรี่มากขึ้น
- การประลองสูง: มีผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหม่เข้าสู่ตลาดเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาแล้วก็เทคโนโลยี
แนวโน้มเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอนาคต
- แบตเตอรี่โซลิดสเตต: เป็นเทคโนโลยีที่น่าเฝ้ามอง เพราะว่ามีความปลอดภัยสูง มีความหนาแน่นของพลังงานสูง และแก่การใช้แรงงานนานกว่าแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน
- แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน: เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าดึงดูด เนื่องด้วยวัตถุดิบราคาถูก และก็มีแนวทางการผลิตที่ง่ายดายยิ่งกว่า
- นิกเกิล เมทัลไฮไดร์ด: แม้จะมีการใช้งานมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับความสนใจ เหตุเพราะแก่การใช้งานยาวนาน และก็ทนต่อสภาพอากาศเจริญ
สิ่งที่น่าจับตามอง:
- การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใหม่ๆ
- การประลองระหว่างผู้สร้างแบตเตอรี่รายใหญ่
- แนวทางสนับสนุนของรัฐบาล
- ราคาของวัตถุดิบที่ใช้สำหรับเพื่อการผลิตแบตเตอรี่
คำแนะนำ:
- ผู้ซื้อ: ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ
- ผู้ประกอบการ: ควรจะติดตามเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งปรับปรุงของใหม่ใหม่ๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถสำหรับเพื่อการแข่งขัน
ตามรายงานปัจจุบันจาก SNE Research พบว่าผู้สร้างแบตเตอรี่จากจีนมีถึง 6 บริษัทที่ติดอันดับ Top 10 ของโลก โดยรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 60.5% ในปี 2565
บริษัทที่ได้รับตำแหน่งอันดับ 1หมายถึงContemporary Amperex Technology (CATL) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 CATL ได้จัดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ไปถึง 165.7 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมากขึ้นถึง 101.8% จากปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทนี้เพิ่มจาก 32.8% ในปี 2564 เป็น 37.1% ในปี 2565
ชั้นที่ 2หมายถึงBYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็แบตเตอรี่ มีปริมาณการติดตั้งมากขึ้น 168.3% คิดเป็น 60.6 GWh และก็ส่วนแบ่งการตลาดโลกอยู่ที่ 13.6% เพิ่ม
แหล่งที่มา บทความ รถยนต์ไฟฟ้า https://www.bangkokbanksme.com/en/23-9sme1-ev-car-business-trends-updated-ev-batteries